วันพุธที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2561

นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ

ท้าวแมนสรวงเป็นกษัตริย์ของเมืองแมนสรวง พระองค์มีพระมเหสีทรง พระนามว่า “นาฏบุญเหลือ” ทั้งสองพระองค์มีพระโอรสมีพระนามว่า “พระลอดิลกราช” หรือเรียกกันสั้นๆว่า “พระลอ” มีกิตติศัพท์เป็นที่ร่ำลือกันว่าพระองค์นั้นทรงเป็นชายหนุ่มรูปงามไปทั่วสารทิศจนไปถึงเมืองสรอง ( อ่านว่า เมืองสอง ) ซึ่งเป็นเมืองที่ถูกปกครองโดยท้าวพิชัยวิษณุกร พระองค์มีพระนามว่า “พรดาราวดี” และพระองค์ทรงมีพระธิดาผู้เลอโฉมถึงสองพระองค์พระนามว่า “พระเพื่อน” และ “พระแพง” พระเพื่อนและพระแพงได้ยินมาว่าพระลอเป็นชายหนุ่มรูปงาม ก็ให้ความสนใจยากจะได้ยล
พี่เลี้ยงของพระเพื่อนและพระแพงคือนางรื่น และนางโรยสังเกตเห็นความปราถนาของนายหญิงของตนก็เข้าใจในพระประสงค์ สองพี่เลี้ยงจึงอาสาจะจัดการให้นายของตนนั้นได้พบกับพระลอ โดยการส่งคนไปขับซอในนครแมนสรวง และในขณะที่ขับซอนั้นจะไห้นักดนตรีพร่ำพรรณนาถึงความงามของเจ้าหญิงทั้งสอง ในขณะเดียวกันนั้นพี่เลี้ยงทั้งสองก็ได้ไปหาปู่เจ้าสมิงพราย เพื่อที่จะให้ช่วยทำเสน่ห์ให้พระลอหลงใหลในเจ้าหญิงทั้งสอง
เมื่อพระลอต้องมนต์ก็ทำใคร่อยากที่จะได้ยลพระเพื่อนและพระแพงเป็นยิ่งนัก พระองค์เกิดความคลั่งไคล้ไหลหลงจนไม่เป็นอันทำอะไรแม้แต่กระทั่งเสวยพระกระยาหาร พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของพระองค์ ได้ทำให้พระราชชนนีสงสัยว่าจะมีผีมาเข้ามาสิงสู่อยู่ แต่ถึงแม้ว่าจะหาหมอผีคนไหนมาทำพิธีขับไล่ก็ไม่มีผลอันใด พระลอก็ยังคงมีพฤติการณ์อย่างเดิมอยู่ เพื่อที่จะได้ยลเจ้าหญิงทั้งสอง พระลอจึงทูลลาพระราชชนนีออกประพาสป่า แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงก็คือเพื่อที่จะได้ไปยลเจ้าหญิงแห่งเมืองสรองนั่นเอง จากนั้นพระลอก็ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองสรองพร้อมคนสนิทอีก 2 คน คือ นายแก้วกับนายขวัญ พร้อมกับไพร่พลอีกจำนวนหนึ่ง ทั้งหมดต้องเดินผ่านป่าผ่าดงจนกระทั่งมาพบแม่น้ำสายหนึ่งมีชื่อว่า “แม่น้ำกาหลง”
และที่แม่น้ำกาหลงนี้เอง ที่พระลอได้ตั้งอธิฐานเสี่ยงน้ำเพื่อตรวจดูดวงชะตาของพระองค์เอง ทันทีที่ได้สิ้นคำอธิษฐานนั้น แม่น้ำก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเลือดในทันทีและไหลเวียนวนผิดปกติ เมื่อพระลอเห็นดังนั้นก็รู้ได้ว่าจะมีเรื่องร้ายรออยู่เบื้องหน้าของพระองค์ แต่ก็ไม่ได้ทำให้พระองค์เกิดความย่อท้อที่จะได้พบกับเจ้าหญิงที่พระทัยของพระองค์เรียกร้องแต่อย่างใด ถึงแม้ว่าพระองค์นั้นจะไม่เคยพบนางเลย แต่พระองค์คลั่งไคล้ไหลหลงในตัวนางทั้งสองเป็นยิ่งนัก…ส่วนเจ้าหญิงทั้งสองรอการเดินทางมาของเจ้าชายรูปงามไม่ได้ และเกรงว่ามนต์เสน่ห์ของปู่เจ้าสมิงพรายจะไม่เห็นผล จึงได้ขอร้องให้ปู่เจ้าสมิงพรายช่วยเหลืออีกครั้ง โดยให้ช่วยเนรมิตไก่งามขึ้นตัวหนึ่งให้มีเสียงขันที่ไพเราะ ทั้งสองพระองค์คิดว่าไก่ตัวนั้นจะต้องทำให้พระลอสนพระทัยและติดตามาจนถึงเมืองสรองอย่างแน่นอน
และแล้วเหตุการณ์ก็เป็นไปตามที่เจ้าหญิงสองคาดไว้ พระลอได้ตามไก่เนรมิตไปจนถึงพระราชอุทยาน และได้พบกับเจ้าหญิงทั้งสองซึ่งกำลังทรงสำราญอยู่ ในทันทีที่ทั้งสามได้พบกันก็เกิดความรักใคร่กันในบัดดล และก็เป็นเวลาเดียวกับที่นายแก้วกับนายขวัญ ได้ตกหลุมรักของนางรื่นและนางโรยผู้ซึ่งเปิดหัวใจต้อนรับชายหนุ่มทั้งสองโดยไม่รีรอเช่นกัน ปรากฏว่าพระลอและบ่าวคนสนิทของพระองค์ลักลอบเข้าไปอยู่ในพระตำหนักชั้นใน ซึ่งเป็นที่ประทับของเจ้าหญิงทั้งสอง…อย่างไรก็ตาม ความลับนี้ได้ถูกเปิดเผยเข้าจนได้ …เมื่อข่าวได้ไปถึงพระกรรณของพระราชาจึงได้เสด็จมาไต่สวนในทันที และเมื่อพระลอกราบทูลให้ทรงทราบเรื่อง พระองค์ก็ทรงกริ้วเป็นยิ่งนัก แต่ก็ทรงเข้าพระทัยในความรักของคนทั้งสาม และทรงพระเมตตารับสั่งจะจัดการอภิเษกพระลอกับพระเพื่อนและพระแพงให้ทันที
แต่พระเจ้าย่าของพระเพื่อนพระแพงนั้นยังทรงพยาบาทพระลอ อ้างรับสั่งท้าวพระพิชัยวิษณุกรตรัสสั่งว่าให้นำทหารไปรุมจับพระลอ พระเพื่อนพระแพงและพี่เลี้ยงอาไว้ …ในขณะที่พระลอกับไพร่พลได้ต่อสู้เอาชีวิตรอด พระเจ้าย่าก็สั่งให้ทหารระดมยิงธนูเข้าใส่ ลูกธนูที่พุ่งเข้าหาพระลอและไพร่พลประดุจดังห่าฝนก็ไม่ปานจึงทำให้ไม่อาจจะต้านทานไว้ได้อีกต่อไป และเพื่อที่ปกป้องชีวิตของชายคนรัก พระเพื่อนกับพระแพงจึงเข้าขวางโดยใช้ตัวเองเป็นโล่กำบังให้พระลอ สุดท้ายพระลอพระเพื่อน พระแพง และพี่เลี้ยงทั้งสี่ช่วยกันต่อสู้จนสิ้นชีวิตทั้งหมด …ทันใดนั้นทั้งสองเมืองก็ต้องตกอยู่ในความวิปโยคต่อการจากไปของทั้งสามพระองค์ผู้บูชาในความรัก
ท้าวพิชัยพิษณุกรพิโรธพระเจ้าย่าและทหาร รับสั่งให้ประหารชีวิตทุกคน พระนางบุญเหลือทรงส่งทูตมาร่วมงานพระศพกษัตริย์ทั้งสาม ในที่สุดเมืองสรวงและเมืองสรองก็กลับมาเป็นไมตรีต่อกัน
ข้อคิดสอนใจที่ได้จากเรื่อง ลิลิตรพระลอ:
• เพื่อให้ตระหนักเห็นโทษภัยของกิเลสต่างๆ ทั้งรัก โลภ โกรธ หลง ชี้ให้เห็นอารมณ์และกิเลสของมนุษย์นั้นมีอำนาจใหญ่หลวงนัก สามารถลิขิตชีวิตของตนเองได้…ถ้าหากเราไม่รู้เท่าทันอารมณ์…ย่อมหลงไปตามอำนาจกิเลสต่างๆ …แล้วนำไปสู่การทำสิ่งไม่ดี ทางเสื่อม และภัยอันตรายต่างๆมาสู่ตนเองได้

ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน’ ย้อนตำนาน หุบเขาแห่งรักที่แสนเศร้า

วนอุทยาน ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ตั้งอยู่ที่ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดอยนางนอน มีเนื้อที่ประมาณ 5,000 ไร่ มีพื้นที่สำหรับบริการนักท่องท่องอยู่ 2 แห่ง คือ
1.  บริเวณวนอุทยานถ้ำหลวงตั้งอยู่ท้องที่บ้านน้ำจำ ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย เป็นที่ตั้งสำนักงาน
2. บริเวณขุนน้ำนางนอน มีเนื้อที่ 8 ไร่ ตั้งอยู่ท้องที่บ้านจ้อง ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย
เทือกเขาดอยนางนอน สถานที่ตั้ง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน มีลักษณะเป็นภูเขาขนาดใหญ่หลายลูกเรียงตัวสลับซับซ้อน มองดูคล้ายผู้หญิงนอนเหยียดยาว มีส่วนหัว จมูก หน้าอก และลำตัวชัดเจน ขนานไปกับถนนในเขตอำเภอแม่จัน และแม่ฟ้าหลวง ซึ่งเป็นที่ตั้งของพระธาตุดอยตุง มีจุดสูงสุดคือ ผาช้างมูบ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลราวๆ 830 เมตร
ตำนาน ดอยนางนอน  มีอยู่หลายเรื่องเล่าด้วยกันจากคนโบราณ แต่เกือบทุกเรื่องมักจบลงด้วยความเศร้า
ตำนานที่ 1
เจ้าหญิงแห่งเมืองเชียงรุ้ง สิบสองปันนา หนีตามชายเลี้ยงม้าในวังไปจนถึงที่ราบใกล้แม่น้ำโขง ขณะนั้นเจ้าหญิงก็ทรงครรภ์ได้หลายเดือนแล้ว เดินทางต่อไม่ไหว จึงขอรออยู่ที่นี่ ส่วนสามีก็อาสาออกไปหาอาหารมาให้ แต่หายไปไม่กลับมาอีกเลย ทราบข่าวอีกทีว่าสามีถูกฆ่าโดยทหารของพระราชบิดา นางเสียใจมาก เลยเอาปิ่นปักผม แทงพระเศียรตนเอง จนเลือดไหลออกมาเป็นสาย กลายเป็นแม่น้ำแม่สาย ร่างที่นอนเหยียดยาวจากทิศใต้จรดทิศเหนือ ก็กลายเป็น ดอยนางนอน และตรงท้องที่นูนขึ้นมาก็เป็นดอยตุง อย่างที่เราเห็นทุกวันนี้
ตำนานที่ 2
พญานาคตัวหนึ่งออกตามหาลูกสาว ที่ถูกพญาครุฑลักพาตัวไป จนพบลูกสาวนอนอยู่ตรงบริเวณที่เป็นต้นน้ำ ปัจจุบันเรียกว่า “ขุนน้ำนางนอน” พญานาคขอลูกสาวคืน แต่พญาครุฑขอแลกกับทองคำ ทุกวันนี้แหล่งน้ำที่พญานาคนำทองคำขึ้นจากบาดาลนั้นเรียกว่า “หนองตานาค” บริเวณที่พญานาคส่งทองคำให้พญาครุฑเรียกว่า “หนองละกา” ส่วนทองคำถูกนำไปเก็บไว้ที่ “ถ้ำทรายทอง” และพญานาคยังได้สร้างเจดีย์ เป็นอนุสรณ์ ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า “พระธาตุจอมนาค” จนถึงปัจจุบัน
ตำนานที่ 3
เจ้าหญิงเมืองพุกามกรีธาทัพออกตามหาเจ้าชายที่นางรัก นางออกรบ และขยายอาณาเขตมาเรื่อยๆ จนมาถึง “เวียงสี่ทวง” จึงพบกับเจ้าชาย แต่ปรากฏว่าเจ้าชายหนีหายไปกับสาวสวยชาวเวียงนี้อีกครั้ง นางรู้สึกเศร้าสลดจนตรอมใจตาย ก่อนตายได้ตั้งจิตอธิษฐานให้ร่างของนางกลายเป็นเทือกเขา ที่ชาวบ้านพากันเรียกว่า “ดอยนางนอน” น้ำตาที่ไหลรินกลายเป็น “ขุนน้ำนางนอน” ส่วนไพร่พลของนางก็กลายมาเป็นชนเผ่าหลากชาติพันธุ์บนภูเขาแห่งนี้
สถานที่เที่ยวที่น่าสนใจ ภายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน
– ถ้ำหลวง เป็นถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ ยาวถึง 7 กิโลเมตร เชื่อว่าเป็นถ้ำที่มีความยาวมากที่สุดในประเทศไทย ปากถ้ำเป็นห้องโถงกว้างมาก ภายในถ้ำจะพบกับความงามของ เกล็ดหินสะท้อนแสง หินงอก หินย้อย และมีธารน้ำไหลตลอดทั้งปี

Credit : MThai News

ช่วงเดือนกรกฎาคม ถึง พฤศจิกายน ของทุกปี ถ้ำหลวงจะปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมพื้นที่ถ้ำ เนื่องจากมักมีน้ำหลากเข้าไปข้างใน อาจทำให้เกิดอันตรายได้ สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะสมคือ เดือนพฤศจิกายน ถึง เมษายน
– ถ้ำพระ เป็นถ้ำขนาดเล็ก ชาวบ้านได้สร้างพระพุทธรูปขนาดใหญ่ไว้ ภายในถ้ำ มีหินงอก-หินย้อย ที่งดงามแปลกตา อากาศบริเวณปากถ้ำเย็นสบายตลอดทั้งปี
– ถ้ำมัลติกาเทวี หรือ ถ้ำพญานาค เป็นถ้ำขนาดเล็ก อยู่ใต้หน้าผาบนภูเขา ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ปฏิบัติธรรมของพระอริยบุคคล และได้มรณภาพในถ้ำนี้ ที่ปากถ้ำมีหินงอกขนาดใหญ่คล้ายงูแผ่แม่เบี้ย สูงประมาณ 2.5 เมตร
– ถ้ำเลียงผา เกิดจากการยุบตัวของแผ่นดิน ทำให้มีลักษณะเป็นเวิ้งมีหุบเหวล้อมรอบ บริเวณถ้ำยังพบฟอสซิลหอยฝาเดียวและหอยสองฝาโบราณอายุหลายร้อยล้านปี
– ขุนน้ำนางนอน ห่างจากถ้ำหลวง 2 กม. มีธรรมชาติที่สวยงามร่มรื่น  เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของนักท่องเที่ยว จุดเด่นคือบึงน้ำจืดขนาดเล็กที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี และถ้ำทรายทอง ซึ่งตั้งอยู่บนหน้าผาเหนือบึงน้ำ เป็นถ้ำลอดที่ยังไม่ได้มีการสำรวจ จึงยังคงความเป็นธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์
สิ่งอำนวยความสะดวก
ทางอุทยานฯ ไม่มีบ้านพักและค่ายพักแรม หากนักท่องเที่ยวต้องการค้างคืน แนะนำให้เตรียมเต็นท์มาเอง โดยมีห้องน้ำและห้องอาบน้ำ แยกชาย-หญิง ไว้บริการ
ค่าเข้าชมสถานที่ ฟรีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
เวลา เปิด – ปิด : เปิดทำการทุกวันเวลา 08.00 – 17.00 น.
การเดินทาง :
  • รถยนต์ ขับจากถนนสายหลัก เชียงราย-แม่สาย ตามถนนพหลโยธินหมายเลข 1 ไปประมาณ 3 กิโลเมตร ถนนลาดยางตลอดสายจนถึงวนอุทยานฯ
  • นั่งรถบัส (สายแม่สาย-เชียงราย) จากสถานีขนส่งผู้โดยสารอ.แม่สาย โดยรถจะวิ่งบนถนนหมายเลข1 (แม่สาย-เชียงราย) และจะจอดให้ลงตรงรร้านอริยะซาวด์ จากนั้นให้นั่งมอเตอร์ไซด์รับจ้างที่ปากซอยบ้านจ้อง ซอย7 เลาะตามถนนเข้าหมู่บ้านจ้องจนถึงวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน

วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

666666666666666666666666666666

6666666666666666666666666666

55555555555555555555555555555555555555555

55555555555555555555555555555555555555555555555555555555

4444444444444444444444444444444444444444444444444

444444444444444444444444444444444444444444444444444444444444444444

3333333333333333

3333333333333333333333333333333333333333333

22222222222222222222

22222222222222222222222222222222222222222222222222222222222222222222222

วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561